ลดหย่อนภาษี กับ กองทุนการออมแห่งชาติ - TaxTeller

วันศุกร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2561

ลดหย่อนภาษี กับ กองทุนการออมแห่งชาติ

ลดหย่อนภาษี กับ กองทุนการออมแห่งชาติ

     กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.)  เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมให้คนไทยที่มีอายุ 15 - 60 ปี ซึ่งประกอบอาชีพอิสระ เกษตรกร นักเรียน นักศึกษา ที่ไม่อยู่ในระบบสวัสดิการ(ประกันสังคม กบข) มีการออมเพื่อเป็นหลักประกันความมั่นคงในชีวิตยามเกษียณ
     โดยสมาชิกจะต้องจ่ายเงินสะสมเข้ากองทุนการออมแห่งชาติไม่ต่ำกว่าครั้งละ 50 บาท แต่เมื่อรวมกันแล้วต้องไม่เกิน 13,200 บาทต่อปี โดยจะส่งเงินสะสมเท่าไหร่ก้ได้ หรือเมื่อไหร่ก็ได้ไม่บังคับ และรัฐบาลจะจ่ายเงินสมทบให้อีกส่วนหนึ่งตามช่วงอายุของสมาชิก  
      ดังนั้นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับสมาชิกคือ เงินสะสมที่จ่ายเข้ากองทุนการออมแห่งชาติ รวมถึงเงินและผลประโยชน์ที่สมาชิกจะได้รับเมื่อทุพลลภาพหรือสิ้นสมาชิกภาพ  เงินเหล่านั้นเกี่ยวข้องกับภาษีอย่างไรเรามาดูกัน

เงินสะสมเข้ากองทุนการออมแห่งชาติ

     เงินสะสมที่สมาชิกจ่ายเข้ากองทุนการออมแห่งชาติสามารถนำมาใช้สิทธิลดหย่อนภาษ๊ได้ ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขดังนี้
     1. ใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ตามจำนวนที่จ่ายจริงในปีภาษีที่จะใช้สิทธิลดหย่อน (กำหนดขั้นต่ำไว้ครั้งละ 50 บาท แต่รวมกันแล้วต้องไม่เกิน 13,200 บาทต่อปี)
     2. แต่รวมกันต้องไม่เกิน 500,000 บาท และเมื่อรวมกับ เงินสะสมเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD) + กบข + เงินสะสมเข้ากองทุนสงเคราะห์ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน + RMF + ประกันชีวิตแบบำนาญ ต้องไม่เกิน 500,000 บาท
     3. หลักฐานที่ใช้ประกอบการใช้สิทธิ คือ ใบแจ้งยอดจอง กอช. ส่วนที่รับรองการส่งเงินสะสม

เงินและผลประโยชน์ที่ได้รับจากกองทุนการออมแห่งชาติ

     สิ่งที่สมาชิกจะได้รับเมื่อสิ้นสมาชิกภาพ ก็คือเงินสะสมที่สมาชิกจ่ายเข้ากองทุนและผลประโยชน์เงินสะสม กับเงินที่รัฐบาลจ่ายเงินสมทบให้และผลประโยชน์เงินสมทบ เงินและผลประโยชน์ที่เพิ่มขึ้นมาจากเงินสะสมที่สมาชิกจ่ายไปนั้น ถือเป็นเงินได้พึงประเมินที่ต้องนำไปรวมคำนวณภาษี แต่รัฐบาลก็ได้กำหนดเงื่อนไขให้ยกเว้นไม่ต้องนำเงินและผลประโยชน์ดังกล่าวไปรวมคำนวณ หากเป็นไปตามเงื่อนไขดังนี้
     1. ได้รับเงินและผลประโยชน์ทั้งหมดเพราะเหตุทุพพลภาพ  โดยต้องมีใบรับรองแพทย์จากแพทย์ที่ได้ขึ้นทะเบียนรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรมซึ่งได้ตรวจและแสดงความเห็นว่าสมาชิกผู้นั้นทุพพลภาพ
     2. ได้รับเงินและผลประโยชน์ทั้งหมดเพราะสิ้นสมาชิกภาพเนื่องจากมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ โดยที่ความเป็นสมาชิกต้องมีอยู่ในวันก่อนวันที่สมาชิกผู้นั้นมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์
     3. ได้รับเงินและผลประโยชน์ทั้งหมดเพราะสิ้นสมาชิกภาพเนื่องจากตาย โดยต้องมีหลักฐานใบมรณบัตร
     การเข้าเงื่อนไขข้อใดข้อหนึ่งดังกล่าวข้างต้นสมาชิกจะได้รับยกเว้นไม่ต้องนำเงินหรือผลประโยชน์ที่ได้รับจากกองทุนการออมแห่งชาติไปรวมคำนวณภาษี แต่หากสมาชิกลาออกจากกองทุนฯ ก่อนก็จะไม่ได้รับสิทธิดังกล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น