ลดหย่อนภาษี กับ กองทุนการออมแห่งชาติ
กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมให้คนไทยที่มีอายุ 15 - 60 ปี ซึ่งประกอบอาชีพอิสระ เกษตรกร นักเรียน นักศึกษา ที่ไม่อยู่ในระบบสวัสดิการ(ประกันสังคม กบข) มีการออมเพื่อเป็นหลักประกันความมั่นคงในชีวิตยามเกษียณ
โดยสมาชิกจะต้องจ่ายเงินสะสมเข้ากองทุนการออมแห่งชาติไม่ต่ำกว่าครั้งละ 50 บาท แต่เมื่อรวมกันแล้วต้องไม่เกิน 13,200 บาทต่อปี โดยจะส่งเงินสะสมเท่าไหร่ก้ได้ หรือเมื่อไหร่ก็ได้ไม่บังคับ และรัฐบาลจะจ่ายเงินสมทบให้อีกส่วนหนึ่งตามช่วงอายุของสมาชิก
ดังนั้นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับสมาชิกคือ
เงินสะสมที่จ่ายเข้ากองทุนการออมแห่งชาติ
รวมถึงเงินและผลประโยชน์ที่สมาชิกจะได้รับเมื่อทุพลลภาพหรือสิ้นสมาชิกภาพ เงินเหล่านั้นเกี่ยวข้องกับภาษีอย่างไรเรามาดูกัน
เงินสะสมเข้ากองทุนการออมแห่งชาติ
เงินสะสมที่สมาชิกจ่ายเข้ากองทุนการออมแห่งชาติสามารถนำมาใช้สิทธิลดหย่อนภาษ๊ได้
ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขดังนี้
1. ใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ตามจำนวนที่จ่ายจริงในปีภาษีที่จะใช้สิทธิลดหย่อน
(กำหนดขั้นต่ำไว้ครั้งละ 50 บาท แต่รวมกันแล้วต้องไม่เกิน 13,200 บาทต่อปี)
2. แต่รวมกันต้องไม่เกิน 500,000 บาท และเมื่อรวมกับ เงินสะสมเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD) + กบข + เงินสะสมเข้ากองทุนสงเคราะห์ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน + RMF + ประกันชีวิตแบบำนาญ ต้องไม่เกิน 500,000 บาท
3. หลักฐานที่ใช้ประกอบการใช้สิทธิ คือ ใบแจ้งยอดจอง กอช. ส่วนที่รับรองการส่งเงินสะสม
เงินและผลประโยชน์ที่ได้รับจากกองทุนการออมแห่งชาติ
สิ่งที่สมาชิกจะได้รับเมื่อสิ้นสมาชิกภาพ
ก็คือเงินสะสมที่สมาชิกจ่ายเข้ากองทุนและผลประโยชน์เงินสะสม
กับเงินที่รัฐบาลจ่ายเงินสมทบให้และผลประโยชน์เงินสมทบ
เงินและผลประโยชน์ที่เพิ่มขึ้นมาจากเงินสะสมที่สมาชิกจ่ายไปนั้น
ถือเป็นเงินได้พึงประเมินที่ต้องนำไปรวมคำนวณภาษี
แต่รัฐบาลก็ได้กำหนดเงื่อนไขให้ยกเว้นไม่ต้องนำเงินและผลประโยชน์ดังกล่าวไปรวมคำนวณ
หากเป็นไปตามเงื่อนไขดังนี้
1. ได้รับเงินและผลประโยชน์ทั้งหมดเพราะเหตุทุพพลภาพ โดยต้องมีใบรับรองแพทย์จากแพทย์ที่ได้ขึ้นทะเบียนรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรมซึ่งได้ตรวจและแสดงความเห็นว่าสมาชิกผู้นั้นทุพพลภาพ
2. ได้รับเงินและผลประโยชน์ทั้งหมดเพราะสิ้นสมาชิกภาพเนื่องจากมีอายุครบ
60 ปีบริบูรณ์
โดยที่ความเป็นสมาชิกต้องมีอยู่ในวันก่อนวันที่สมาชิกผู้นั้นมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์
3. ได้รับเงินและผลประโยชน์ทั้งหมดเพราะสิ้นสมาชิกภาพเนื่องจากตาย
โดยต้องมีหลักฐานใบมรณบัตร
การเข้าเงื่อนไขข้อใดข้อหนึ่งดังกล่าวข้างต้นสมาชิกจะได้รับยกเว้นไม่ต้องนำเงินหรือผลประโยชน์ที่ได้รับจากกองทุนการออมแห่งชาติไปรวมคำนวณภาษี
แต่หากสมาชิกลาออกจากกองทุนฯ ก่อนก็จะไม่ได้รับสิทธิดังกล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น