ภาษีการรับให้
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 521 "อันว่าให้นั้น คือสัญญาซึ่งบุคคลคนหนึ่งเรียกว่า ผู้ให้โอนทรัพย์สิน ของตนให้โดยเสน่หาแก่บุคคลอีกคนหนึ่งเรียกว่า ผู้รับ และผู้รับยอมรับเอาทรัพย์สินนั้น"
การให้ในลักษณะนี้ มีผล 2 อย่าง คือ
1. การให้ในขณะที่ผู้ให้ยังมีชีวิตอยู่ จะเกี่ยวข้องกับภาษีการรับให้
2. การให้หลังจากที่ผู้ให้เสียชีวิตแล้ว จะเป็นในรูปของมรดก หรือตามพนัยกรรม อันนี้จะเกี่ยวข้องกับเรื่องภาษีมรดก
ในตอนนี้เราจะกล่าวถึงการให้ที่ผู้ให้ยังมีชีวิตอยู่ (Gift Tax) ซึ่งวัตถุประสงค์ของการให้ในลักษณะนี้เป็นการให้ ที่ฝ่ายผู้รับได้รับทรัพย์สินที่ผู้ให้ยกให้ไปเปล่าๆ ไม่มีหน้าที่ต้องให้อะไรเป็นการตอบแทน เป็นการให้ที่ไม่มีเงื่อนไข
ทรัพย์สินที่ให้
ทรัพย์สินที่ให้แบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ สังหาริมทรัพย์ และ อสังหาริมทรัพย์ ซึ่งแต่ละประเภทมีหลักเกณฑ์เงื่อนไขการได้รับยกเว้นภาษีแตกต่างกันหลักเกณฑ์
1. สังหาริมทรัพย์ สังหาริมทรัพย์ในที่นี้หมายถึง สังหาริมทรัพย์ทุกประเภทที่สามารถคำนวณได้เป็นเงิน
บุพการี หมายถึง ผู้สืบสายโลหิตโดยตรงขึ้นไป เช่น บิดา มารดา ปู่ ย่า ตา ยาย
ผู้สืบสันดาน หมายถึง ผู้สืบสายโลหิตโดยตรงลงมา เช่น ลูก หลาน เหลน ลื่อ
คู่สมรส หมายถึงสามีภริยาที่จดทะเบียนสมรสกันตามกฎหมาย
2. อสังหาริมทรัพย์ หมายถึง การโอนกรรมสิทธิหรือสิทธิครอบครองในอสังหาริมทรัพย์โดยไม่มีค่าตอบแทน
ตัวอย่างเช่น
นาย ก และ นาง ข มีบุตรคือ นาย ง ในปี 2562นาย ก มอบทองคำแท่งให้ นาง ข มูลค่า 25 ล้านบาท
นาย ก โอนที่ดินให้ นาย ง มูลค่า 23 ล้านบาท และมอบเงินให้อีก 15 ล้านบาท
นาง ข มอบเงินให้ นาย ง จำนวน 7 ล้านบาท
ภาระภาษีแยกได้ดังนี้
1. นาย ก โอนที่ดินให้บุตร คือนาย ง มูลค่า 23 ล้านบาท นาย ก มีภาระภาษีดังนี้
- จะได้รับยกเว้นเงินได้ ในส่วน 20 ล้านบาท
- ส่วนที่เกิน 20 ล้านบาท คือจำนวน 3 ล้านบาท ไม่ได้รับยกเว้น นาย ก จะถูกสำนักงานที่ดินหัก ภาษี ณ ที่จ่ายไว้ จำนวน 5% สำหรับมูลค่า 3 ล้านบาท ณ วันที่มีการโอนกรรมสิทธิ
- นาย ก มีสิทธิเลือกที่จะนำจำนวนเงิน 3 ล้านบาท ไปรวมคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาปลายปี (สามารถนำภาษีที่ที่ดินหักไว้ร้อยละ 5 ไปใช้เครดิตในการคำนวณภาษีได้) หรือเลือกที่จะเสียภาษีร้อยละ 5 ก็ได้ (ตามจำนวนเงินที่ที่ดินหักไว้แล้วร้อยละ 5 โดยไม่ต้องไปยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาปลายปีอีก)
2. นาง ข ได้รับทองคำแท่งจาก นาย ก ซึ่งเป็นสามี มีมูลค่า 25 ล้านบาท นาง ข มีภาระภาษีดังนี้
- จะได้รับยกเว้นเงินได้ ในส่วน 20 ล้านบาท
- ส่วนที่เกิน 20 ล้านบาท คือจำนวน 5 ล้านบาท ไม่ได้รับยกเว้น
- นาง ข มีสิทธิเลือกที่จะนำจำนวนเงิน 5 ล้านบาท ไปรวมคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาปลายปี หรือเลือกที่จะเสียภาษีร้อยละ 5 ก็ได้
3. นาย ง ได้รับเงินจากบิดา คือ นาย ก จำนวน 15 ล้านบาท และได้รับเงินจากมารดา คือ นาง ข อีก จำนวน 7 ล้านบาท รวมในปี 2562 นาย ง ได้รับเงินจากบิดามารดา รวมจำนวน 22 ล้านบาท นาย ง มีภาระภาษีดังนี้
- จะได้รับยกเว้นเงินได้ ในส่วน 20 ล้านบาท
- ส่วนที่เกิน 20 ล้านบาท คือจำนวน 2 ล้านบาท ไม่ได้รับยกเว้น
- นาย ง มีสิทธิเลือกที่จะนำจำนวนเงิน 2 ล้านบาท ไปรวมคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาปลายปี หรือเลือกที่จะเสียภาษีร้อยละ 5 ก็ได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น