โค้งสุดท้ายลดหย่อนท่องเที่ยวเมืองรอง
แล้วหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการยกเว้นเงินได้ที่จ่ายเป็นค่าบริการหรือที่พักสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดท่องเที่ยวรอง หรือเขตพื้นที่ท่องเที่ยวมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง เรามาดูกัน เริ่มด้วยมารู้จักกันก่อนว่าจังหวัดท่องเที่ยวรองคือจังหวัดอะไรบ้าง และเขตพื้นที่ท่องเที่ยวคืออำเภอไหนบ้าง
จังหวัดท่องเที่ยวเมืองรอง
เขตพื้นที่ท่องเที่ยว
แล้วเราต้องจ่ายค่าบริการหรือค่าที่พักให้กับใครบ้างถึงจะมีสิทธินำมาใช้เป็นค่าลดหย่อนได้
1. ผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยว ต้องเป็นผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวที่ได้รับใบอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศน์ ท่านสามารถเข้าไปตรวจสอบรายชื่อได้ที่ ตรวจสอบรายชื่อผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวและมักคุเทศก์ ที่ผู้มีเงินได้มีสิทธิขอหักลดหย่อนค่าเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ กรมสรรพากร
2. ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรม ต้องเป็นผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมที่ได้รับใบอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม ท่านสามารถตรวจสอบรายชื่อได้ที่ ตรวจสอบรายชื่อผู้ประกอบธุรกิจโรงแรม ที่ผู้มีเงินได้มีสิทธิขอหักลดหย่อนค่าเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ กรมสรรพากร
3. ผู้ประกอบกิจการให้บริการที่พักโฮมสเตย์ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานโฮมสเตย์ไทยจากกรมท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยโฮมสเตย์ไทยในที่นี้ หมายความถึง สถานที่พักชั่วคราวซึ่งเจ้าของบ้านนำพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านมาดัดแปลงเป็นห้องพัก และจัดบริการสิ่งอำนวยความสะดวกตามสมควร โดยเรียกค่าตอบแทนจากผู้พักอันมีลักษณะเป็นการประกอบกิจการเพื่อหารายได้เสริม และมีจำนวนไม่เกิน 4 ห้อง มีผู้พักรวมไม่เกิน 20 คน และได้ขึ้นทะเบียนกับกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
ท่านสามารถตรวจสอบรายชื่อได้ที่ โฮมสเตย์ไทย
4. สถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรม คือ สถานที่พักที่มีจำนวนห้องพักในอาคารเดียวกันหรือหลายอาคารรวมกันไม่เกินสี่ห้องและมีจำนวนผู้พักรวมกันทั้งหมดไม่เกินยี่สิบคน ซึ่งจัดตั้งขึ้นเพื่อให้บริการที่พักชั่วคราวสาหรับคนเดินทางหรือบุคคลอื่นใดโดยมีค่าตอบแทน อันมีลักษณะเป็น การประกอบกิจการเพื่อหารายได้เสริม และได้แจ้งให้นายทะเบียนทราบตามแบบที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยกำหนด ตามข้อ 1 แห่งกฎกระทรวง กำหนดประเภทและหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจโรงแรม พ.ศ. 2551
ท่านสามารถตรวจสอบรายชื่อได้ที่ สถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรม
2. หลักฐานการรับเงินต้องระบุชื่อผู้มีเงินได้ จำนวนเงิน วัน เดือน ปี ที่จ่ายเงิน
3. หากเป็นการเดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดท่องเที่ยวรองร่วมกับท้องที่ในเขตจังหวัดอื่น(ที่ไม่ใช่จังหวัดท่องเที่ยวเมืองรอง) ซึ่งเป็นเส้นทางท่องเที่ยวที่ได้รับการรับรองจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวต้องระบุลำดับที่ได้รับการรับรองในหลักฐานการรับเงินด้วย
4. หลักฐานการรับชาระค่าที่พักแก่ผู้ประกอบกิจการสถานที่พัก ที่ไม่เป็นโรงแรม ต้องระบุเลขที่รับแจ้งและจังหวัด ตามหนังสือรับแจ้งสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรม ที่ออกโดยนายทะเบียนกระทรวงมหาดไทยด้วย
- เขตพื้นที่ท่องเที่ยว ร่วมกับ ท้องที่ในเขตจังหวัดอื่น ซึ่งเป็นเส้นทางท่องเที่ยวที่ได้รับการรับรองจากกระทรวงการท่อง เที่ยวและกีฬา
3. ต้องเป็นการจ่ายค่าที่พักโรงแรม ให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม ใน
- จังหวัดท่องเที่ยวเมืองรอง
1. ผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยว ต้องเป็นผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวที่ได้รับใบอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศน์ ท่านสามารถเข้าไปตรวจสอบรายชื่อได้ที่ ตรวจสอบรายชื่อผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวและมักคุเทศก์ ที่ผู้มีเงินได้มีสิทธิขอหักลดหย่อนค่าเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ กรมสรรพากร
2. ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรม ต้องเป็นผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมที่ได้รับใบอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม ท่านสามารถตรวจสอบรายชื่อได้ที่ ตรวจสอบรายชื่อผู้ประกอบธุรกิจโรงแรม ที่ผู้มีเงินได้มีสิทธิขอหักลดหย่อนค่าเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ กรมสรรพากร
3. ผู้ประกอบกิจการให้บริการที่พักโฮมสเตย์ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานโฮมสเตย์ไทยจากกรมท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยโฮมสเตย์ไทยในที่นี้ หมายความถึง สถานที่พักชั่วคราวซึ่งเจ้าของบ้านนำพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านมาดัดแปลงเป็นห้องพัก และจัดบริการสิ่งอำนวยความสะดวกตามสมควร โดยเรียกค่าตอบแทนจากผู้พักอันมีลักษณะเป็นการประกอบกิจการเพื่อหารายได้เสริม และมีจำนวนไม่เกิน 4 ห้อง มีผู้พักรวมไม่เกิน 20 คน และได้ขึ้นทะเบียนกับกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
ท่านสามารถตรวจสอบรายชื่อได้ที่ โฮมสเตย์ไทย
4. สถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรม คือ สถานที่พักที่มีจำนวนห้องพักในอาคารเดียวกันหรือหลายอาคารรวมกันไม่เกินสี่ห้องและมีจำนวนผู้พักรวมกันทั้งหมดไม่เกินยี่สิบคน ซึ่งจัดตั้งขึ้นเพื่อให้บริการที่พักชั่วคราวสาหรับคนเดินทางหรือบุคคลอื่นใดโดยมีค่าตอบแทน อันมีลักษณะเป็น การประกอบกิจการเพื่อหารายได้เสริม และได้แจ้งให้นายทะเบียนทราบตามแบบที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยกำหนด ตามข้อ 1 แห่งกฎกระทรวง กำหนดประเภทและหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจโรงแรม พ.ศ. 2551
ท่านสามารถตรวจสอบรายชื่อได้ที่ สถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรม
หลักฐานที่ใช้ในการลดหย่อน
1. หลักฐานการรับเงิน อาจจะเป็นใบเสร็จรับเงินหรือใบกำกับภาษีก็ได้2. หลักฐานการรับเงินต้องระบุชื่อผู้มีเงินได้ จำนวนเงิน วัน เดือน ปี ที่จ่ายเงิน
3. หากเป็นการเดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดท่องเที่ยวรองร่วมกับท้องที่ในเขตจังหวัดอื่น(ที่ไม่ใช่จังหวัดท่องเที่ยวเมืองรอง) ซึ่งเป็นเส้นทางท่องเที่ยวที่ได้รับการรับรองจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวต้องระบุลำดับที่ได้รับการรับรองในหลักฐานการรับเงินด้วย
4. หลักฐานการรับชาระค่าที่พักแก่ผู้ประกอบกิจการสถานที่พัก ที่ไม่เป็นโรงแรม ต้องระบุเลขที่รับแจ้งและจังหวัด ตามหนังสือรับแจ้งสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรม ที่ออกโดยนายทะเบียนกระทรวงมหาดไทยด้วย
เงื่อนไขของการท่องเที่ยวในจังหวัดท่องเที่ยวเมืองรองและเขตพื้นที่ท่องเที่ยว
1. ต้องเป็นการจ่ายค่าบริการ (แพคเกจทัวร์) ให้แก่ผู้ประกอบการนำเที่ยว สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวใน
- จังหวัดท่องเที่ยวเมืองรอง
- เขตพื้นที่ท่องเที่ยว
- จังหวัดท่องเที่ยวรอง ร่วมกับ ท้องที่ในเขตจังหวัดอื่น ซึ่งเป็นเส้นทางท่องเที่ยวที่ได้รับการรับรองจากกระทรวงการท่อง เที่ยวและกีฬา- เขตพื้นที่ท่องเที่ยว ร่วมกับ ท้องที่ในเขตจังหวัดอื่น ซึ่งเป็นเส้นทางท่องเที่ยวที่ได้รับการรับรองจากกระทรวงการท่อง เที่ยวและกีฬา
3. ต้องเป็นการจ่ายค่าที่พักโรงแรม ให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม ใน
- จังหวัดท่องเที่ยวเมืองรอง
- เขตพื้นที่ท่องเที่ยว
4. หากพักโฮมสเตย์ต้องเป็นการจ่ายค่าที่พักโฮมสเตย์ไทย ใน
- จังหวัดท่องเที่ยวเมืองรอง
- เขตพื้นที่ท่องเที่ยว
5. จ่ายเป็นค่าที่พักในสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรม (update ใหม่ ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 340)
- จังหวัดท่องเที่ยวเมืองรอง
- เขตพื้นที่ท่องเที่ยว
6. เป็นค่าบริการ (แพคเกจทัวร์) หรือค่าที่พัก ที่ได้จ่ายไปตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2561 ถึง 31 ธันวาคม 2561
7. ยกเว้นภาษีเงินได้ตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่รวมกันทั้งหมดแล้วไม่เกิน 15,000.- บาท โดยให้นำไปคำนวณหักจากเงินได้พึงประเมินหลังหักค่าใช้จ่าย เสมือนค่าลดหย่อนนั่นเอง
8. การลดหย่อนค่าบริการหรือค่าที่พักนี้ เป็นการลดหย่อนให้เฉพาะบุคคลธรรมดา (ไม่รวมห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือคณะบุคคลที่ไม่ใช่นิติบุคคล)
ลดหย่อนให้เฉพาะผู้มีเงินได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 15,000.- บาท นั่นคือ ใบเสร็จจะต้องระบุเป็นชื่อของผู้มีเงินได้ เช่น สามีเป็นผู้มีเงินได้ ภริยาไม่มีเงินได้ หากจ่ายค่าที่พักและค่าบริการในจังหวัดท่องเที่ยวรองหรือเขตพื้นที่ท่องเที่ยวแล้วออกใบเสร็จรับเงินในนามของสามีผู้มีเงินได้ แบบนี้สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ ในทางตรงกันข้ามหากออกใบเสร็จรับเงินในนามภริยาผู้ไม่มีเงินได้ แบบนี้ไม่สามารถนำไปใช้ลดหย่อนภาษีได้นั่นเอง
2. กรณีสามีภริยาต่างฝ่ายต่างมีเงินได้
กรณีนี้ไม่ว่าสามีภริยาประสงค์จะยื่นแบบรวมกันหรือแยกยื่นแบบ ให้ต่างฝ่ายต่างสามารถนำไปหักเป็นค่าลดหย่อนได้ ง่ายๆก็คือไม่ว่าสามีหรือภริยาจะเป็นผู้จ่ายค่าที่พักและค่าบริการในจังหวัดท่องเที่ยวรองหรือเขตพื้นที่ท่องเที่ยว ก็สามารถนำไปหักลดหย่อนในส่วนของตนเองตามส่วนที่มีการจ่ายจริงแต่ไม่เกิน 15,000.- บาท เช่น
2.1 หากยื่นแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดารวมกันในนามของสามี
- สามีสามารถหักลดหย่อนค่าที่พักและค่าบริการในจังหวัดท่องเที่ยวรองหรือเขตพื้นที่ท่องเที่ยว ได้ตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 15,000.- บาท(ใบเสร็จรับเงินออกในนามสามี)
- และสามารถนำส่วนที่ภริยาจ่ายค่าที่พักและค่าบริการในจังหวัดท่องเที่ยวรองหรือเขตพื้นที่ท่องเที่ยวมาหักได้อีกตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 15,000.- บาท(ใบเสร็จรับเงินออกในนามภริยา)
2.2 หากสามีภริยาแยกกันยื่นแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
- แบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของสามี สามีก็สามารถหักลดหย่อนค่าที่พักและค่าบริการในจังหวัดท่องเที่ยวรองหรือเขตพื้นที่ท่องเที่ยวที่ตนเองได้จ่ายไปได้ตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 15,000.- บาท(ใบเสร็จรับเงินออกในนามสามี)
- แบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของภริยา ภริยาก็สามารถหักลดหย่อนค่าที่พักและค่าบริการในจังหวัดท่องเที่ยวรองหรือเขตพื้นที่ท่องเที่ยวที่ตนเองได้จ่ายไป ได้ตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 15,000.- บาท(ใบเสร็จรับเงินออกในนามภริยา)
อย่างไรก็ตามการจะได้ลดภาษีในส่วนนี้มากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับอัตราภาษีที่แต่ละคนรับภาระอยู่ เช่นบางคนเสียภาษีอยู่ในอัตราร้อยละ 20 หากจ่ายค่าที่พักไป 15,000.- บาท ก็สามารถลดภาษีที่จะต้องชำระเพิ่มไปได้จำนวน 3,000.- บาท แต่บางคนอาจจะเสียภาษีในอัตราร้อยละ 10 หากจ่ายค่าที่พักไป 15,000.- บาท เหมือนกัน ก็จะสามารถลดภาษีที่จะต้องชำระเพิ่มได้เพียง 1,500.- บาท นั่นเอง
แต่หากเราไม่ได้คิดอะไรมาก ทุกปีต้องการออกไปผ่อนคลายสมอง พักผ่อนร่างกายและจิตใจ ก็ลองพิจารณาไปท่องเที่ยวในจังหวัดท่องเที่ยวรองและเขตพื้นที่ท่องเที่ยวกันดู ถึงจะได้ลดภาษีมากบ้างน้อยบ้างก็คุ้มค่าอยู่ดี ตอนนี้ก็เหลือเวลาไม่ถึง 3 เดือนแล้วรีบๆกันหน่อยแล้วกัน ศึกษาและวางแผนการท่องเที่ยวกันให้ดี เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในทุกทุกทาง
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
อ้างอิง :
1. ข้อมูลรายชื่อผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว และผู้ประกอบธุรกิจโรงแรม บนเว็บไซค์ www.rd.go.th
2. ข้อมูลรายชื่อโฮมสเตย์ไทย บนเว็บไซค์ของกรมการท่องเที่ยว
3. กฎกระทรวงฉบับที่ 335 (พ.ศ.2561)
4. ประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 322) เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเพื่อการยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินได้เท่าที่ได้จ่ายเป็นค่าบริการหรือค่าที่พักสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดท่องเที่ยวรองหรือในเขตพื้นที่ท่องเที่ยวอื่นใดที่อธิบดีประกาศกำหนด
5. ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่ท่องเที่ยวสำหรับการจัดอบรมสัมมนา และการเดินทางท่องเที่ยวและที่พักเพิ่มเติมจากจังหวัดท่องเที่ยวรอง ลงวันที่ 2 กรกฎาคม 2561
6. กฎกระทรวงฉบับที่ 340 (พ.ศ.2561)
4. หากพักโฮมสเตย์ต้องเป็นการจ่ายค่าที่พักโฮมสเตย์ไทย ใน
- จังหวัดท่องเที่ยวเมืองรอง
- เขตพื้นที่ท่องเที่ยว
5. จ่ายเป็นค่าที่พักในสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรม (update ใหม่ ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 340)
- จังหวัดท่องเที่ยวเมืองรอง
- เขตพื้นที่ท่องเที่ยว
6. เป็นค่าบริการ (แพคเกจทัวร์) หรือค่าที่พัก ที่ได้จ่ายไปตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2561 ถึง 31 ธันวาคม 2561
7. ยกเว้นภาษีเงินได้ตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่รวมกันทั้งหมดแล้วไม่เกิน 15,000.- บาท โดยให้นำไปคำนวณหักจากเงินได้พึงประเมินหลังหักค่าใช้จ่าย เสมือนค่าลดหย่อนนั่นเอง
8. การลดหย่อนค่าบริการหรือค่าที่พักนี้ เป็นการลดหย่อนให้เฉพาะบุคคลธรรมดา (ไม่รวมห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือคณะบุคคลที่ไม่ใช่นิติบุคคล)
หลักเกณฑ์การหักลดหย่อน
1. กรณีสามีหรือภริยามีเงินได้ฝ่ายเดียวลดหย่อนให้เฉพาะผู้มีเงินได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 15,000.- บาท นั่นคือ ใบเสร็จจะต้องระบุเป็นชื่อของผู้มีเงินได้ เช่น สามีเป็นผู้มีเงินได้ ภริยาไม่มีเงินได้ หากจ่ายค่าที่พักและค่าบริการในจังหวัดท่องเที่ยวรองหรือเขตพื้นที่ท่องเที่ยวแล้วออกใบเสร็จรับเงินในนามของสามีผู้มีเงินได้ แบบนี้สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ ในทางตรงกันข้ามหากออกใบเสร็จรับเงินในนามภริยาผู้ไม่มีเงินได้ แบบนี้ไม่สามารถนำไปใช้ลดหย่อนภาษีได้นั่นเอง
2. กรณีสามีภริยาต่างฝ่ายต่างมีเงินได้
กรณีนี้ไม่ว่าสามีภริยาประสงค์จะยื่นแบบรวมกันหรือแยกยื่นแบบ ให้ต่างฝ่ายต่างสามารถนำไปหักเป็นค่าลดหย่อนได้ ง่ายๆก็คือไม่ว่าสามีหรือภริยาจะเป็นผู้จ่ายค่าที่พักและค่าบริการในจังหวัดท่องเที่ยวรองหรือเขตพื้นที่ท่องเที่ยว ก็สามารถนำไปหักลดหย่อนในส่วนของตนเองตามส่วนที่มีการจ่ายจริงแต่ไม่เกิน 15,000.- บาท เช่น
2.1 หากยื่นแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดารวมกันในนามของสามี
- สามีสามารถหักลดหย่อนค่าที่พักและค่าบริการในจังหวัดท่องเที่ยวรองหรือเขตพื้นที่ท่องเที่ยว ได้ตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 15,000.- บาท(ใบเสร็จรับเงินออกในนามสามี)
- และสามารถนำส่วนที่ภริยาจ่ายค่าที่พักและค่าบริการในจังหวัดท่องเที่ยวรองหรือเขตพื้นที่ท่องเที่ยวมาหักได้อีกตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 15,000.- บาท(ใบเสร็จรับเงินออกในนามภริยา)
2.2 หากสามีภริยาแยกกันยื่นแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
- แบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของสามี สามีก็สามารถหักลดหย่อนค่าที่พักและค่าบริการในจังหวัดท่องเที่ยวรองหรือเขตพื้นที่ท่องเที่ยวที่ตนเองได้จ่ายไปได้ตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 15,000.- บาท(ใบเสร็จรับเงินออกในนามสามี)
- แบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของภริยา ภริยาก็สามารถหักลดหย่อนค่าที่พักและค่าบริการในจังหวัดท่องเที่ยวรองหรือเขตพื้นที่ท่องเที่ยวที่ตนเองได้จ่ายไป ได้ตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 15,000.- บาท(ใบเสร็จรับเงินออกในนามภริยา)
อย่างไรก็ตามการจะได้ลดภาษีในส่วนนี้มากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับอัตราภาษีที่แต่ละคนรับภาระอยู่ เช่นบางคนเสียภาษีอยู่ในอัตราร้อยละ 20 หากจ่ายค่าที่พักไป 15,000.- บาท ก็สามารถลดภาษีที่จะต้องชำระเพิ่มไปได้จำนวน 3,000.- บาท แต่บางคนอาจจะเสียภาษีในอัตราร้อยละ 10 หากจ่ายค่าที่พักไป 15,000.- บาท เหมือนกัน ก็จะสามารถลดภาษีที่จะต้องชำระเพิ่มได้เพียง 1,500.- บาท นั่นเอง
แต่หากเราไม่ได้คิดอะไรมาก ทุกปีต้องการออกไปผ่อนคลายสมอง พักผ่อนร่างกายและจิตใจ ก็ลองพิจารณาไปท่องเที่ยวในจังหวัดท่องเที่ยวรองและเขตพื้นที่ท่องเที่ยวกันดู ถึงจะได้ลดภาษีมากบ้างน้อยบ้างก็คุ้มค่าอยู่ดี ตอนนี้ก็เหลือเวลาไม่ถึง 3 เดือนแล้วรีบๆกันหน่อยแล้วกัน ศึกษาและวางแผนการท่องเที่ยวกันให้ดี เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในทุกทุกทาง
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
อ้างอิง :
1. ข้อมูลรายชื่อผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว และผู้ประกอบธุรกิจโรงแรม บนเว็บไซค์ www.rd.go.th
2. ข้อมูลรายชื่อโฮมสเตย์ไทย บนเว็บไซค์ของกรมการท่องเที่ยว
3. กฎกระทรวงฉบับที่ 335 (พ.ศ.2561)
4. ประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 322) เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเพื่อการยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินได้เท่าที่ได้จ่ายเป็นค่าบริการหรือค่าที่พักสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดท่องเที่ยวรองหรือในเขตพื้นที่ท่องเที่ยวอื่นใดที่อธิบดีประกาศกำหนด
5. ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่ท่องเที่ยวสำหรับการจัดอบรมสัมมนา และการเดินทางท่องเที่ยวและที่พักเพิ่มเติมจากจังหวัดท่องเที่ยวรอง ลงวันที่ 2 กรกฎาคม 2561
6. กฎกระทรวงฉบับที่ 340 (พ.ศ.2561)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น