ประกันชีวิตของผู้มีเงินได้ที่สามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีได้ มีดังนี้
1. ประกันชีวิตของผู้มีเงินได้ หักลดหย่อนได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 100,000.00 บาท2. ประกันชีวิตแบบบำนาญของผู้มีเงินได้ หักลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 15% ของเงินได้พึงประเมิน และไม่เกิน 200,000.00 บาท และเมื่อรวมกับเงินสะสมเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือเงินสะสมเข้ากองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ หรือเงินสะสมเข้ากองทุนสงเคราะห์ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน หรือกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ(RMF) ต้องไม่เกิน 500,000.00 บาท ในปีภาษีเดียวกัน
หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการลดหย่อนเบี้ยประกันชีวิต ดูรายละเอียดตาม Link การประกันชีวิตกับการลดหย่อนภาษี
3. ประกันสุขภาพของผู้มีเงินได้ หักลดหย่อนได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 25,000.00 บาท และเมื่อรวมกับประกันชีวิตตามข้อ 1 แล้วต้องไม่เกิน 100,000.00 บาท
(กฎกระทรวงฉบับที่ 365 (พ.ศ. 2563)
หลักเกณฑ์การยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเบี้ยประกันสุขภาพของผู้มีเงินได้
1. ต้องเป็นการจ่ายเบี้ยประกันภัยสำหรับการประกันสุขภาพของผู้มีเงินได้ ให้แก่บริษัทประกันชีวิตหรือบริษัทประกันวินาศภัยที่ประกอบกิจการในประเทศไทย
2. การประกันสุขภาพ หมายถึง
4. หากต้องการใช้สิทธิลดหย่อนเบี้ยประกันสุขภาพ ผู้มีเงินได้ต้องแจ้งความประสงค์ที่จะใช้สิทธิต่อบริษัทประกันชีวิตหรือบริษัทประกันวินาศภัยที่ได้เอาประกันไว้
โดยกรมสรรพากรจะใช้ข้อมูลในรูปแบบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ที่บริษัทประกันเป็นผู้ส่งข้อมูลให้ ในการให้สิทธิลดหย่อนภาษีเบี้ยประกันสุขภาพ
แต่หากเราใช้สิทธิลดหย่อนประกันชีวิตในแต่ละปีไว้แล้วจำนวน 100,000.00 บาท การจะนำเบี้ยประกันสุขภาพมาใช้เพิ่มอีก 25,000.00 บาท ก็ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อะไรเลย เพราะตามที่กฎหมายกำหนดเมื่อรวมกับเบี้ยประกันชีวิตแล้วใช้หักค่าลดหย่อนได้ไม่เกิน 100,000.00 บาทอยู่ดี กรณีนี้จึงเป็นประโยชน์กับคนที่ยังมีเบี้ยประกันชีวิตไม่ถึง 100,000.00 บาท
หลักเกณฑ์การยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเบี้ยประกันสุขภาพของผู้มีเงินได้
1. ต้องเป็นการจ่ายเบี้ยประกันภัยสำหรับการประกันสุขภาพของผู้มีเงินได้ ให้แก่บริษัทประกันชีวิตหรือบริษัทประกันวินาศภัยที่ประกอบกิจการในประเทศไทย
2. การประกันสุขภาพ หมายถึง
- การประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลอันอาจเกิดจากการเจ็บป่วยและการบาดเจ็บ การชดเชยการทุพพลภาพและการสูญเสียอวัยวะ เนื่องจากการเจ็บป่วยและการบาดเจ็บ
- การประกันภัยอุบัติเหตุเฉพาะที่ให้ความคุ้มครองเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล การทุพพลภาพ การสูญเสียอวัยวะ และการแตกหักของกระดูก
- การประกันโรคร้ายแรง (Critical Illnesses)
- การประกันภัยการดูแลระยะยาว (Long Term Care)
4. หากต้องการใช้สิทธิลดหย่อนเบี้ยประกันสุขภาพ ผู้มีเงินได้ต้องแจ้งความประสงค์ที่จะใช้สิทธิต่อบริษัทประกันชีวิตหรือบริษัทประกันวินาศภัยที่ได้เอาประกันไว้
โดยกรมสรรพากรจะใช้ข้อมูลในรูปแบบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ที่บริษัทประกันเป็นผู้ส่งข้อมูลให้ ในการให้สิทธิลดหย่อนภาษีเบี้ยประกันสุขภาพ
แต่หากเราใช้สิทธิลดหย่อนประกันชีวิตในแต่ละปีไว้แล้วจำนวน 100,000.00 บาท การจะนำเบี้ยประกันสุขภาพมาใช้เพิ่มอีก 25,000.00 บาท ก็ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อะไรเลย เพราะตามที่กฎหมายกำหนดเมื่อรวมกับเบี้ยประกันชีวิตแล้วใช้หักค่าลดหย่อนได้ไม่เกิน 100,000.00 บาทอยู่ดี กรณีนี้จึงเป็นประโยชน์กับคนที่ยังมีเบี้ยประกันชีวิตไม่ถึง 100,000.00 บาท
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
อ้างอิง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น